พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
นางสิกขี เนื้อว...
นางสิกขี เนื้อว่านดำ ฝังตกุต เงิน หลวงปู่ฝั้น สุภทฺโท วัดหนองมัง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี
นางสิกขี หรือ พระพิมพ์พระนางจามเทวี ถือเป็นเครื่องรางในด้านสเนห์ เมตตา ค้าขาย
ประวัติหลวงปู่ฝั้น
สถานะเดิม ชื่อฝั้น พันจันลา วิทยฐานะ ป.4 อาชีพทำนา
บิดาชื่อนายอุด มารดาชื่อนางจันทร์ เกิดเมื่อวันที่ 3 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2481 ต.โนนกลาง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี
อุปสมบท ชื่อ พระฝั้น ฉายา สุภทฺโท (หลวงปู่ฝั้น สุภทฺโท) อุปสมบทเมื่ออายุ 65 ปี ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2546 วัดหนองไฮ ต.หนองไฮ อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองมัง ต.โนนกลาง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี
หลวงปู่ฝั้น สุภทฺโท ได้บวชเณรกับหลวงปู่โลน ที่บ้านเหล่าเขมร ช่วงนั้นก็กำลังตั้งวัดได้ใหม่ๆ และก่อสร้างยังไม่เสร็จ เช่นโบสถ์ หลวงปู่ฝั้น หรือเณรฝั้น ก็ได้ลงมือช่วยหลวงปู่โลนสร้างโบสถ์สร้างวัด ปั้นดินก่ออิฐ และได้ช่วยเหลือทางวัดทุกสิ่งอย่าง บวชเณรได้ 4 พรรษา ในเวลาต่อมาจึงได้ขอลาสิกขากับหลวงปู่โลน แต่หลวงปู่โลนไม่ให้ลาสิกขา จนกระทั่งหลวงปู่ฝั้น หรือเณรฝั้น ได้หนีออกไป มาขอลาสิกขากับหลวงพ่ออ้วน โสภโณ วัดโนนค้อ จ.ศรีสะเกษ ในเวลาต่อมา
เมื่อหลวงปู่ฝั้น มีอายุถึง 19 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระ (สมัยก่อนนับตอนอยู่ในครรภ์ด้วย 1 ปี จึงเป็น 20 ปี) อุปสมบทที่วัดบ้านหนองไฮ บอกปู่บอกว่าที่แรกจะบวชเพียงแค่ 7 วัน แต่พอบวชแล้วก็อยากอยู่ต่อไปเพื่อศึกษาหาความรู้ทางธรรม และวิชาตามครูอาจารย์ ในขณะนี้หลวงปู่ก็ได้ไปสร้างวัดตามวัดต่างๆ และได้ศึกษาเล่าเรียนจนสอบนักธรรมชั้นเอกได้ หลวงปู่ท่านเล่าว่าได้ไปศึกษาวิชาอาคม วิชาสายธรรมกับหลวงพ่ออ้วน โสภโณ วัดโนนค้อ เป็นเวลานาน หลวงพ่ออ้วนก็ได้สอนวิชาต่างๆ สอนแบบดั่งเดิม คือท่องให้จำ และฝึกสมธิ ฝึกจิต หลวงปู่ฝั้นท่านก็ได้วิชามาจากหลวงพ่ออ้วนอยู่หลายบทและก็ฝึกฝนมาตลอด จากนั้นหลวงปู่ฝั้น ท่านก็ได้ไปศึกษาวิชากับหลวงพ่อสังข์ สุริโย วัดนากันตม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลวงพ่อสังข์ ก็ได้สอนวิชาถ่ายทอดให้กับหลวงปู่ฝั้น เป็นเวลานานเช่นกันครับ หลวงปู่ท่านเล่าว่าได้เรียนศึกษากับครูอาจารย์มาหลายท่านแต่ละท่านก็เสียไปหมดแล้ว จนบวชได้เป็นเวลาถึง 3 พรรษา หลังจากนั้นเพื่อนที่บวชด้วยกันก็แนะนำให้ไปเรียนเป็นครูด้วยกัน ส่วนหลวงปู่ฝั้นเองก็ได้ตัดสินใจไปวัดหนองป่าพง เพื่อไปหาหลวงพ่อชา สุภทฺโท เพื่อฝึกปฏิบัติกรรมฐาน หลวงพ่อชาก็ได้เมตตาอบรมสั่งสอนและฝึกให้นั่งสมาธิ เดินจงกลม ในที่ที่เรียกว่าไม่มีใครไป หลวงปู่ฝั้นก็ได้ฝึกปฏิบัติตามที่หลวงพ่อชาสอน ในทุกกิริยาบทมีอุปสรรคมากมายแต่หลวงปู่ฝั้นก็ผ่านมาได้ ขณะนั้นในระยะเวลาฝึกกรรมฐานหลวงพ่อชาก็เฝ้าสอดส่องดูอยู่ตลอด เพราะกลัวลูกศิษย์จะเป็นอะไรไป ระยะเวลาที่อยู่จำพรรษาฝึกปฏิบัติกรรมฐานกับหลวงพ่อชาเป็นเวลา 4 พรรษา จนหลวงปู่ฝั้นได้รู้วิธีและมีจิตที่สงบ หลวงพ่อชาจึงได้ถามว่าจะบวชเอาเป็นหรือเอาตาย หลวงปู่ฝั้น ก็ได้อยู่ปฏิบัติกับหลวงพ่อชามานานถือข้อวัดปฎิบัติแบบสายวัดป่ามาโดยตลอด หลังจากหลวงปู่ฝั้น เรียนกับหลวงพ่อชาแล้ว ก็ได้ขอเดินทางไปศึกษาต่อกับครูอาจารย์เลื่อยๆไปและได้ออกมาตั้งวัดพุทธเจดีย์ที่บ้านหนองไฮกับพระอีกรูปหนึ่ง จนมีพรรษาถึง 7 พรรษา อายุ 26 ปี พ.ศ.2506 ในเวลาต่อมาหลวงปู่ก็ได้ลาสิกขามาใช้ชีวิตแบบฆราวาส ในช่วงที่หลวงปู่เป็นฆราวาสท่านก็ได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆกับครูอาจารย์ผู้เฒ่าผู้แก่ และหลวงปู่หลวงพ่อ รวมทั้งไปศึกษากับหลวงพ่ออ้วนและหลวงพ่อสังข์ตามเดิม เพื่อต่อยอดวิชาที่เคยเรียนมาแล้ว และได้เรียนเป็นเวลานานที่ได้อยู่กับหลวงพ่ออ้วน จนกระทั่งปี พ.ศ.2510 หลวงพ่ออ้วน ได้ออกเหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ฝั้น ก็ได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่ออ้วนตลอด ไปๆมาๆ รวมทั้งไปศึกษากับหลวงพ่อสังข์ด้วยเช่นกัน ไปๆมาๆ หลวงปู่บอกผมว่าสมัยบวชเป็นพระก็ได้ศึกษาวิชามาบ้างแล้ว พอได้ลาสิกขาออกมา ก็ไปต่อยอดในช่วงที่เป็นฆราวาส และก็เรียนมาหลายครู
หลวงปู่ฝั้น ใช้ชีวิตแบบฆราวาสมานานพอสมควรครับ จนถึงอายุ 65 ปี หลวงปู่ได้ทบทวนการใช้ชีวิตแบบฆราวาส ว่าทุกสิ่งอย่างเป็นของไม่เที่ยง มีเวลาในการปฏิบัติธรรมน้อยลง ทุกอย่างเป็นอนิจัง ทางมาแห่งทางโลกเป็นทางแคบ หลวงปู่ฝั้น จึงได้ตัดสินใจเข้าสู่ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดได้อุปสมบทอีกครั้งในอายุ 65 ปี จึงได้เดินธุดงค์ กับพระรูปอื่นๆ ฝึกปฏิบัติกรรมฐานในป่า พิจารณาตน ฝึกสมาธิ ปฏิบัติแบบพระป่าตามหลวงพ่อชาที่เป็นครูของท่าน อยู่ในป่า อยู่วัดป่า ฉันคาบเดียว ไม่รับไม่จับเงินทองให้เป็นของส่วนตัว หลังจากนั้นทางชาวบ้านก็ได้นิมลให้หลวงปู่มาจำพรรษาที่วัดบ้านหนองมัง ต.โนนกลาง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ปัจจุบัน เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองมัง
หมายเหตุ= ประวัตินี้เป็นประวัติโดยย่อที่ข้าพเจ้าได้ฟังหลวงปู่เล่า และข้าพเจ้าก็ได้บันทึกเสียงโดยขออนุญาตหลวงปู่แล้ว ข้าพเจ้าจึงได้เรียบเรียงออกมาในเรื่องที่สำคัญโดยย่อ เพื่อได้รู้ถึงการฝึกปฏิบัติของหลวงปู่ฝั้น ให้ลูกศิษย์ได้พิจารณาสร้างแต่คุณงามความดี ในเวลานั้นมีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับวิชาความเชื่อความลี้ลับและสิ่งที่หลวงปู่ได้พบเจอ และสิ่งที่ครูอาจารย์ได้ถ่ายทอดให้ รวมทั้งบททดสอบต่างๆ หลวงปู่เองก็ผ่านมาได้เพราะความเพียรความอดทน ความอยากรู้อยากเห็น หลวงปู่ได้ฝึกปฏิบัติมามาก แม้จะมีอุปสรรค ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับหลวงปู่ สาธุธรรม พระอธิการฝั้น สุภทฺโท (หลวงปู่ฝั้น สุภทฺโท) เจ้าอาวาสวัดหนองมัง ต.โนนกลาง อ.สำโรง จ.อุบลฯ
ผู้เข้าชม
788 ครั้ง
ราคา
450
สถานะ
เปิดให้บูชา
ชื่อร้าน
บารมีบุญพระเครื่อง
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
rit3009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-93615-9

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
Beerchang พระเครื่องเทพจิระเปียโนหริด์ เก้าแสนstp253termboon
Netnapatumlawyerมนต์เมืองจันท์เอก พานิชพระเครื่องบ้านพระสมเด็จชาวานิช
ไกร วรมันชา วานิชsomemanhra7215jochoว.ศิลป์สยาม
เจริญสุขภูมิ IRLe29Amuletโจ๊ก ป่าแดงน้ำตาลแดงhopperman
sirachalordtplasep8600tintinเพ็ญจันทร์

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1496 คน

เพิ่มข้อมูล

นางสิกขี เนื้อว่านดำ ฝังตกุต เงิน หลวงปู่ฝั้น สุภทฺโท วัดหนองมัง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
นางสิกขี เนื้อว่านดำ ฝังตกุต เงิน หลวงปู่ฝั้น สุภทฺโท วัดหนองมัง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี
รายละเอียด
นางสิกขี หรือ พระพิมพ์พระนางจามเทวี ถือเป็นเครื่องรางในด้านสเนห์ เมตตา ค้าขาย
ประวัติหลวงปู่ฝั้น
สถานะเดิม ชื่อฝั้น พันจันลา วิทยฐานะ ป.4 อาชีพทำนา
บิดาชื่อนายอุด มารดาชื่อนางจันทร์ เกิดเมื่อวันที่ 3 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2481 ต.โนนกลาง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี
อุปสมบท ชื่อ พระฝั้น ฉายา สุภทฺโท (หลวงปู่ฝั้น สุภทฺโท) อุปสมบทเมื่ออายุ 65 ปี ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2546 วัดหนองไฮ ต.หนองไฮ อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองมัง ต.โนนกลาง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี
หลวงปู่ฝั้น สุภทฺโท ได้บวชเณรกับหลวงปู่โลน ที่บ้านเหล่าเขมร ช่วงนั้นก็กำลังตั้งวัดได้ใหม่ๆ และก่อสร้างยังไม่เสร็จ เช่นโบสถ์ หลวงปู่ฝั้น หรือเณรฝั้น ก็ได้ลงมือช่วยหลวงปู่โลนสร้างโบสถ์สร้างวัด ปั้นดินก่ออิฐ และได้ช่วยเหลือทางวัดทุกสิ่งอย่าง บวชเณรได้ 4 พรรษา ในเวลาต่อมาจึงได้ขอลาสิกขากับหลวงปู่โลน แต่หลวงปู่โลนไม่ให้ลาสิกขา จนกระทั่งหลวงปู่ฝั้น หรือเณรฝั้น ได้หนีออกไป มาขอลาสิกขากับหลวงพ่ออ้วน โสภโณ วัดโนนค้อ จ.ศรีสะเกษ ในเวลาต่อมา
เมื่อหลวงปู่ฝั้น มีอายุถึง 19 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระ (สมัยก่อนนับตอนอยู่ในครรภ์ด้วย 1 ปี จึงเป็น 20 ปี) อุปสมบทที่วัดบ้านหนองไฮ บอกปู่บอกว่าที่แรกจะบวชเพียงแค่ 7 วัน แต่พอบวชแล้วก็อยากอยู่ต่อไปเพื่อศึกษาหาความรู้ทางธรรม และวิชาตามครูอาจารย์ ในขณะนี้หลวงปู่ก็ได้ไปสร้างวัดตามวัดต่างๆ และได้ศึกษาเล่าเรียนจนสอบนักธรรมชั้นเอกได้ หลวงปู่ท่านเล่าว่าได้ไปศึกษาวิชาอาคม วิชาสายธรรมกับหลวงพ่ออ้วน โสภโณ วัดโนนค้อ เป็นเวลานาน หลวงพ่ออ้วนก็ได้สอนวิชาต่างๆ สอนแบบดั่งเดิม คือท่องให้จำ และฝึกสมธิ ฝึกจิต หลวงปู่ฝั้นท่านก็ได้วิชามาจากหลวงพ่ออ้วนอยู่หลายบทและก็ฝึกฝนมาตลอด จากนั้นหลวงปู่ฝั้น ท่านก็ได้ไปศึกษาวิชากับหลวงพ่อสังข์ สุริโย วัดนากันตม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลวงพ่อสังข์ ก็ได้สอนวิชาถ่ายทอดให้กับหลวงปู่ฝั้น เป็นเวลานานเช่นกันครับ หลวงปู่ท่านเล่าว่าได้เรียนศึกษากับครูอาจารย์มาหลายท่านแต่ละท่านก็เสียไปหมดแล้ว จนบวชได้เป็นเวลาถึง 3 พรรษา หลังจากนั้นเพื่อนที่บวชด้วยกันก็แนะนำให้ไปเรียนเป็นครูด้วยกัน ส่วนหลวงปู่ฝั้นเองก็ได้ตัดสินใจไปวัดหนองป่าพง เพื่อไปหาหลวงพ่อชา สุภทฺโท เพื่อฝึกปฏิบัติกรรมฐาน หลวงพ่อชาก็ได้เมตตาอบรมสั่งสอนและฝึกให้นั่งสมาธิ เดินจงกลม ในที่ที่เรียกว่าไม่มีใครไป หลวงปู่ฝั้นก็ได้ฝึกปฏิบัติตามที่หลวงพ่อชาสอน ในทุกกิริยาบทมีอุปสรรคมากมายแต่หลวงปู่ฝั้นก็ผ่านมาได้ ขณะนั้นในระยะเวลาฝึกกรรมฐานหลวงพ่อชาก็เฝ้าสอดส่องดูอยู่ตลอด เพราะกลัวลูกศิษย์จะเป็นอะไรไป ระยะเวลาที่อยู่จำพรรษาฝึกปฏิบัติกรรมฐานกับหลวงพ่อชาเป็นเวลา 4 พรรษา จนหลวงปู่ฝั้นได้รู้วิธีและมีจิตที่สงบ หลวงพ่อชาจึงได้ถามว่าจะบวชเอาเป็นหรือเอาตาย หลวงปู่ฝั้น ก็ได้อยู่ปฏิบัติกับหลวงพ่อชามานานถือข้อวัดปฎิบัติแบบสายวัดป่ามาโดยตลอด หลังจากหลวงปู่ฝั้น เรียนกับหลวงพ่อชาแล้ว ก็ได้ขอเดินทางไปศึกษาต่อกับครูอาจารย์เลื่อยๆไปและได้ออกมาตั้งวัดพุทธเจดีย์ที่บ้านหนองไฮกับพระอีกรูปหนึ่ง จนมีพรรษาถึง 7 พรรษา อายุ 26 ปี พ.ศ.2506 ในเวลาต่อมาหลวงปู่ก็ได้ลาสิกขามาใช้ชีวิตแบบฆราวาส ในช่วงที่หลวงปู่เป็นฆราวาสท่านก็ได้ศึกษาวิชาอาคมต่างๆกับครูอาจารย์ผู้เฒ่าผู้แก่ และหลวงปู่หลวงพ่อ รวมทั้งไปศึกษากับหลวงพ่ออ้วนและหลวงพ่อสังข์ตามเดิม เพื่อต่อยอดวิชาที่เคยเรียนมาแล้ว และได้เรียนเป็นเวลานานที่ได้อยู่กับหลวงพ่ออ้วน จนกระทั่งปี พ.ศ.2510 หลวงพ่ออ้วน ได้ออกเหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ฝั้น ก็ได้ศึกษาวิชากับหลวงพ่ออ้วนตลอด ไปๆมาๆ รวมทั้งไปศึกษากับหลวงพ่อสังข์ด้วยเช่นกัน ไปๆมาๆ หลวงปู่บอกผมว่าสมัยบวชเป็นพระก็ได้ศึกษาวิชามาบ้างแล้ว พอได้ลาสิกขาออกมา ก็ไปต่อยอดในช่วงที่เป็นฆราวาส และก็เรียนมาหลายครู
หลวงปู่ฝั้น ใช้ชีวิตแบบฆราวาสมานานพอสมควรครับ จนถึงอายุ 65 ปี หลวงปู่ได้ทบทวนการใช้ชีวิตแบบฆราวาส ว่าทุกสิ่งอย่างเป็นของไม่เที่ยง มีเวลาในการปฏิบัติธรรมน้อยลง ทุกอย่างเป็นอนิจัง ทางมาแห่งทางโลกเป็นทางแคบ หลวงปู่ฝั้น จึงได้ตัดสินใจเข้าสู่ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดได้อุปสมบทอีกครั้งในอายุ 65 ปี จึงได้เดินธุดงค์ กับพระรูปอื่นๆ ฝึกปฏิบัติกรรมฐานในป่า พิจารณาตน ฝึกสมาธิ ปฏิบัติแบบพระป่าตามหลวงพ่อชาที่เป็นครูของท่าน อยู่ในป่า อยู่วัดป่า ฉันคาบเดียว ไม่รับไม่จับเงินทองให้เป็นของส่วนตัว หลังจากนั้นทางชาวบ้านก็ได้นิมลให้หลวงปู่มาจำพรรษาที่วัดบ้านหนองมัง ต.โนนกลาง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี ปัจจุบัน เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองมัง
หมายเหตุ= ประวัตินี้เป็นประวัติโดยย่อที่ข้าพเจ้าได้ฟังหลวงปู่เล่า และข้าพเจ้าก็ได้บันทึกเสียงโดยขออนุญาตหลวงปู่แล้ว ข้าพเจ้าจึงได้เรียบเรียงออกมาในเรื่องที่สำคัญโดยย่อ เพื่อได้รู้ถึงการฝึกปฏิบัติของหลวงปู่ฝั้น ให้ลูกศิษย์ได้พิจารณาสร้างแต่คุณงามความดี ในเวลานั้นมีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับวิชาความเชื่อความลี้ลับและสิ่งที่หลวงปู่ได้พบเจอ และสิ่งที่ครูอาจารย์ได้ถ่ายทอดให้ รวมทั้งบททดสอบต่างๆ หลวงปู่เองก็ผ่านมาได้เพราะความเพียรความอดทน ความอยากรู้อยากเห็น หลวงปู่ได้ฝึกปฏิบัติมามาก แม้จะมีอุปสรรค ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับหลวงปู่ สาธุธรรม พระอธิการฝั้น สุภทฺโท (หลวงปู่ฝั้น สุภทฺโท) เจ้าอาวาสวัดหนองมัง ต.โนนกลาง อ.สำโรง จ.อุบลฯ
ราคาปัจจุบัน
450
จำนวนผู้เข้าชม
795 ครั้ง
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
ชื่อร้าน
บารมีบุญพระเครื่อง
URL
เบอร์โทรศัพท์
0910162844
ID LINE
rit3009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-93615-9




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี